วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การเดินทาง



รถโดยสารประจำทาง


จากสมุทรสาคร ขึ้นรถโดยสารประจำทาง มหาชัย นครประฐม ไปลงสุดสาย (ในตลาด) ค่าโดยสาร 35-40 บาท รถออกเที่ยวแรก 05.30 . รถหมด 19.00 .จากนครปฐม ขึ้นรถโดยสารประจำทางสายนครปฐม-วัดไผ่โรงวัว ค่าโดยสาร 35-40 บาท ใช้เวลาเดินทางระมาณ 1.45 ชั่วโมง รถออกเที่ยวแรก 05.30 . รถหมด 16.00 .


ตอนนี้ตลาดบางหลวงได้เปิดให้เป็นที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ และมีของกินอร่อยๆมากมายในแบบฉบับของต้นตำหร้บดั้งเดิมเลยล่ะ ลองไปดูกันครับว่ามีอะไรกันบ้างตลาดบางหลวงเป็นชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี จากข้อมูลก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๖ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน (หรือแม่น้ำสุพรรณบุรี) ด้านฝั่งตะวันตก เป็นห้องแถวไม้สองชั้นหันหน้าเข้าหากัน ยาวจากหัวตลาดถึงท้ายตลาดประมาณ หกสิบแปดห้อง. ปัจจุบันยังคงสภาพความสวยงามและบรรยากาศ ของสถาปัตยกรรมตลาดเก่าในอดีตไว้อย่างสมบูรณ์ ทั้งรูปแบบวิถีชีวิต ที่เรียบง่าย การค้าขายของคนในชุมชน รวมทั้งประเพณีและวัฒนธรรม ที่ผสมกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมไทย-จีนที่สืบทอดกันมาเป็นเวลากว่า 100 ปี การสร้างตลาดบางหลวงในอดีต ได้เริ่มจากคนจีนโพ้นทะเล ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่บางหลวง จนกลายเป็นชุมชนที่ประกอบการค้า จึงสร้างเป็นตลาดเรือนไม้สองชั้น หันหน้าเข้าหากัน โดยสร้างตลาดบนก่อนเป็นตลาดแรก เมื่อตลาดมีความเจริญรุ่งเรืองชุมชนเริ่มขยาย ได้มีการสร้างตลาดล่าง และตลาดกลางตามลำดับ


หากใครได้ชมละครเรื่อง "คมแฝก" เมืองพล เมืองที่ถูกกุมอำนาจด้วยผู้มีอิทธพลที่ชื่อ แสน ราชสีห์ และใช้ไม้คมแฝกต่อสู้กันอย่างระเบิดระเบ้อ.. เบื้องหลังสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องนี้ เมืองพลในละครก็คือ ตลาดบางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม ตลาดบางหลวงแห่งนี้โด่งดังมากขึ้น จากการที่ได้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง "คมแฝก" ที่ออนแอร์ทางช่อง 7 และเพิ่งจบไปไม่นานมานี้ กว่า 80% ของฉากละครถ่ายทำที่ตลาดบางหลวงนี้ จนทำให้หลายๆร้านค้าเริ่มเป็นที่โด่งดังออกไป แต่จริงๆแล้วตลาดแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำทั้งละคร และภาพยนต์อีกหลายๆเรื่อง วันนี้หมูหินเลยพามาตะลุยเมืองพล เพื่อจัดการกับ แสน ราชสีห์ (555..ว่ากันไปโน่น อินซ้าาา..)



เดิมตลาดบางหลวงเป็นแหล่งค้าขายทางน้ำ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอบางเลน เพราะมีท่าเรือ สะดวกในการขนถ่ายสินค้า มีบริษัทสุพรรณขนส่งให้บริการเดินเรือจากสุพรรณบุรีไปยังสถานีรถไฟงิ้วราย เพื่อเดินทางระหว่างหมู่บ้านหรือเข้ากรุงเทพฯ เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาแทน มี การสร้างถนน รถยนต์ก็มาแทนที่เรือ ทำให้การค้าขายทางน้ำเริ่มซบเซาลง แต่การค้าขายของชาวตลาดบางหลวงก็ยังคงอยู่ และยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านต่าง ๆไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายยาจีนสมุนไพร ร้านทำฟันปลอม ร้านทำทอง ร้านบัดกรีโลหะ ร้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ยังคงอนุรักษ์ไว้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของบางหลวงต่อไป


ถึงตลาดก็เกือบๆจะเที่ยงแล้ว แดดไม่ร้อนเท่าไหร่ และบรรยากาศที่นี่ดูจะเงียบสงบมากๆ ผู้คนอยู่กันอย่างเรียบง่าย ส่วนใหญ่ที่เห็นๆจะไม่ค่อยมีเด็กๆ หรือวัยรุ่นเท่าไหร่นัก ส่วนมากที่เจอจะเป็นคนสูงวัยซะมากกว่า เพราะที่นี่วันธรรมดาลูกๆหลานๆก็จะไปทำงานที่กรุงเทพฯ หรือไม่ก็ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นๆ แต่เมื่อวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็จะกลับมาช่วยกันขายของที่ตลาดนี้ บรรยากาศภายในตลาดก็ดูเก่าแก่ อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ก็ได้รับการซ่อมแซมไปเยอะเหมือนกัน แต่ยังคงรูปแบบเดิมไว้อยู่ ด้านในติดน้ำจะมี่แพไว้บริการให้นักท่องเที่ยวไว้นั่งเล่นพักผ่อน เราสามารถสั่งอาหารมานั่งทานในแพนี้ได้ครับ แถมยังมีเรือนำเที่ยวไว้คอยบริการให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน ราคาไม่แพงเลยครับเพียงคนละ 30บาทเอง แต่ต้องมาในวันเสาร์-อาทิตย์ นะ หากมาในวันธรรมดาอย่างหมูหินถ้าจะไปก็ต้องเหมาลำไปกัน ราคาเหมาก็ 500บาทครับ


หมูหินสั่งก๋วยเตี๋ยวมาทานบนแพ แถมด้วยหมูสะเต๊ะอีกชุดหนึ่ง อร่อยดีครับรสชาติก๋วยเตี๋ยวเป็นแบบก๋วยเตี๋ยวโบราณแท้เลยครับ หมูสเต๊ะก็นุ่มลิ้นอร่อยอีกเหมือนกัน ได้อาหารอร่อยๆและนั่งทานในบรรยากาศดีๆอย่างนี้ อิจฉาหมูหินมั๊ยล่ะ..555อิ่มท้องนิดหน่อยก็ได้เวลาเดินย่อยอาหารกันซะหน่อยแล้ว แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวเราก็ต้องมาหยุดที่ร้านหนึ่งที่ขายของทอด แหม...ไม่หยุดได้ไงครับ ร้านนี้เค้าออกทีวีด้วยนะ ขายของที่เราไม่เคยได้ทานกันด้วยสิ ว่าแต่มันคืออะไรล่ะ..(ให้ทาย)ปอเปี๊ยะ ใครๆก็รู้จักและน่าจะเป็นของว่างกินเล่นที่หาทานกันได้ง่ายๆตามท้องตลาดทั่วไป แต่ถ้าหมูหินจะพูดถึง ชุนเปี๊ยะ ล่ะ จะมีใครพอจะนึกออกบ้างไม๊ว่ามันคืออะไร หน้าตาเป็นยังไง เป็นของกินหรืออะไรกันแน่ วันนี้หมูหินจะพามารู้จักและลิ้มรสของชุนเปี๊ยะกันครับ



ชุนเปี๊ยะ จะว่าไปแล้วหน้าตามันก็คล้ายๆ ปอเปี๊ยะ นั่นแหละครับ มีชื่อแบบไทยๆเรียกว่าขนมบ้องเป็นของว่างของกินเล่นที่ทำมาจากแผ่นแป้งบางๆ นำมาม้วน สอดไส้ไว้ข้างใน แล้วนำไปทอดให้เป็นสีเหลืองทอง ความแตกต่างระหว่างชุนเปี๊ยะกับปอเปี๊ยะจะต่างกันตรงที่ว่าถ้าเป็น ปอเปี๊ยะ ไส้ข้างในจะทำมาจากวุ้นเส้น ถั่วงอก หมูสับ สามารถทานได้ทั้งแบบสด และแบบทอด เวลาทานก็จะราดด้วยน้ำจิ้มถึงจะครบตามสูตรของปอเปี๊ยะ ส่วนชุนเปี๊ยะ ไส้ข้างในจะทำมาจากใบกุยช่ายผัด กุ้งแห้ง และหมูหั่นชิ้นบางๆ เมื่อนำแผ่นแป้งมาม้วนแล้วทอดให้กรอบ รสชาติจะกลมกล่อมมีทั้ง เค็ม มัน ผสมกับความกรอบของแป้ง หมูหินต้องยกนิ้วให้เชียวแหล่ะครับว่าอร่อยจริงๆ ชุนเปี๊ยะจะทานได้เฉพาะแบบทอดเท่านั้น และที่สำคัญไม่ต้องมีน้ำจิ้มหรือเครื่องเคียงใดๆทั้งสิ้น แค่นี้ก็อร่อยเหาะแล้วล่ะครับ หมูหินสอบถามเจ้าของร้านขายชุนเปี๊ยะ ซึ่งเป็นเจ้าของสูตรชุนเปี๊ยะเจ้าแรกของตลาดบางหลวง ได้ความว่า สามีของอาม่าเจ้าของร้าน เป็นคนได้สูตรมาจากเมืองจีน ขายชุนเปี๊ยะอยู่ที่เมืองจีน พอกลับมาเมืองไทยก็นำสูตรชุนเปี๊ยะมาทำขายที่เมืองไทยด้วย ขายอยู่ที่ตลาดบางหลวงมากว่า 50 ปีแล้ว เปิดร้านขายอยู่ที่ตลาดบางหลวงทุกวัน โดยตั้งร้านอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง ชื่อร้านว่า ปึงใฮ้ฮวดอาม่ากับลูกสาวเจ้าของร้านอัธยาศัยดีมากๆ บอกว่าต้องเป็นร้านชื่อนี้เท่านั้นถึงจะได้กินชุนเปี๊ยะสูตรแท้ๆจากเมืองจีน เพราะวันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดบางหลวงจะมีร้านขายชุนเปี๊ยะหลายร้าน เจ้าของร้านแอบแซวว่า นี่ขนาดยังไม่ได้ขายเฟรนไชน์นะเนี่ย แต่ยังไงซะจ้าของร้านรับรองว่ากินชุนเปี๊ยะร้านไหนๆ ก็ไม่มีทางเหมือนชุนเปี๊ยะร้านปึงใฮ้ฮวด แน่นอน แอบๆถามว่าเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ไหน ก็ได้คำตอบว่าอยู่ที่แป้งบางๆที่ใช้ห่อจะเป็นสูตรที่ไม่เหมือนใคร แต่ขอเก็บเป็นความลับไว้ให้ลองมาชิมกันเองถึงที่ตลาดบางหลวงจะดีกว่า อาม่าและลูกสาวบอกว่าถ้าอยากกินชุนเปี๊ยะแบบทันอกทันใจต้องมาวันธรรมดา ถึงจะได้กินแบบไม่ต้องรอนานนัก ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ล่ะก็ รับรองรอเป็นชั่วโมงๆเลยล่ะครับ เพราะใครมาเที่ยวตลาดบางหลวงก็ต้องมาสั่งชุนเปี๊ยะ สั่งทีเป็นสิบๆกล่อง ใครอยากกินก็ต้องรอกันไป เพราะแกไม่ยอมทำทิ้งไว้เยอะๆ มันจะทำให้แป้งไม่กรอบ และไม่อร่อย ที่สำคัญไม่มีเวลาทำทิ้งไว้ด้วยเพราะขายออกหมดทำแทบไม่ทันขาย เพราะฉะนั้นถ้าอยากกินก็ต้องรออย่างเดียวครับ ราคาก็ถูกแสนถูก 4 อัน 10 บาทเท่านั้น สำหรับใครทีต้องการซื้อชุนเปี๊ยะไปเป็นของฝาก ก็ต้องบอกเค้าด้วยนะครับ เพราะเค้าจะได้ทอดชุนเปี๊ยะให้แค่พอเหลืองเล็กน้อย เวลานำกลับบ้านก็จะได้เอาไปลงกระทะทอดซ้ำใหม่ ก็จะได้ชุนเปี๊ยะสีเหลืองทองกรอบนอก อร่อยใน เหมือนต้นฉบับเป๊ะ ของว่างแปลกๆ กรอบ อร่อย น่ากิน ต้องชุนเปี๊ยะตลาดบางหลวงครับ ตอนแรกหมูหินก็ยังสงสัยอยู่ว่าข้าวเกรียบปากหม้อไส้ผัก โดยเฉพาะผักกระเฉดเนี่ยนะ แล้วมันจะอร่อยเหรอ ถามเจ้าของร้านออกไปก็ได้คำตอบว่าต้องลองดู พร้อมกับรอยยิ้มแบบเยาะเย้ยว่า ไม่รู้อะไรซะแล้ว ไม่ยอมต้องรอคิวยาวเหมือนกันครับ นี่ขนาดวันธรรมดานะเนี่ย รอตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง พอได้กิน โอ้โห! ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังเลยล่ะครับ อร่อยมากๆ ร้านข้าวเกรียบปากหม้อ เจ๊สมนึก นี่ก็เป็นอีกร้านที่บอกว่าถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ต้องรอกันเป็นชั่วโมง แถมไม่มีเวลามานั่งคุยกับหมูหินแบบนี้ด้วย เพราะแค่ทำขายอย่างเดียวก็แทบไม่ทันแล้ว เพิ่มเตาขึ้นอีกเตายังทำขายไม่ทันเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากกินต้นตำหรับก็ต้องรอกันไปตามระเบียบ แต่ก็อร่อยคุ้มค่ากับการรอนะครับ ถามถึงเคล็ดลับความอร่อย เจ้าของร้านบอกว่าอยู่ที่น้ำจิ้ม ใครอยากได้สูตรน้ำจิ้มหรืออยากหัดทำข้าวเกรียบปากหม้อ เจ้าของร้านเค้ายินดีสอนให้โดยไม่หวง จะเอาไปทำขายหรือเอาไปทำเลียนแบบที่ไหนก็ไม่ว่า เพราะแกบอกว่าจะเอาไปทำขายได้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องมีความอดทนสูง เพราะต้องอยู่หน้าเตาทั้งวัน หมูหินคอนเฟิร์มนะครับว่า ข้าวเกรียบปากหม้อไส้ผัก ร้าน เจ๊สมนึกเป็นอาหารว่างง่ายๆที่แปลก และอร่อยมากๆอีกอย่างหนึ่ง ที่ไม่ควรพลาดเวลาไปเที่ยวที่ตลาดบางหลวง ร.ศ.๑๒๒ แถมราคาก็ถูกมาก ตัวละบาทเดียวเท่านั้น ลองดูนะครับ อ่อๆ..อีกร้านที่หมูหินไม่พลาดที่จะแวะคือร้านกาแฟ ซึ่งร้านนี้ก็โด่งดังจากในฉากละครเรื่องคมแฝก ร้านนี้ชื่อร้านกาแฟ





วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

ร้านอาหารในสมุทรสาคร








บรรยากาศที่ร้าน




เมนูอาหารที่แนะนำ


ปูผัดผงกระหรี่



แกงส้มหน่อไม้ดองปูไข่



ปูทะเลนึ่ง


ปลาช่อนโบราณ


ร้านอาหาร แมกไม้

จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้า สู่จังหวัดสมุทรสาคร ใช้เส้นทางพระรามที่ 2 เลยแยกเข้าตัวจังหวัดสมุทรสาคร ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ผ่านแยกเข้าอำเภอบ้านแพ้ว มุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม ผ่านโรงงานน้ำมันพืชโอลีน โรงงานน้ำจิ้มสุกี้พันท้ายนรสิงห์ ข้ามสะพานข้ามคลองสุนัขหอน (หลักกิโลเมตร ที่ 46 จะอยู่กลางสะพาน) ลงสะพานเลี้ยวซ้ายเข้าคู่ขนาน ไปกลับรถใต้สะพานข้ามทางรถไฟข้างหน้า กลับรถมา ประมาณ 100 เมตร มีซอยอยู่ซ้ายมือ เลี้ยวเข้ามา 2 กิโลเมตร




จากแยกวังมะนาว มุ่งหน้า สู่จังหวัดสมุทรสงคราม ใช้เส้นทางพระรามที่ 2 ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ผ่านแยกเข้าตัวจังหวัดสมุทรสงคราม ผ่านสนามแข่งรถเทพนคร ผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากซ้ายมือ ผ่านวัดนาโคก เลยทางเข้าวัดนาโคกมาประมาณ 2 ก.ม. ข้ามสะพานข้ามทางรถไฟ (หลักกิโลเมตรที่ 47 อยู่กลางสะพาน) ลงสะพานข้ามทางรถไฟ เลี้ยวซ้ายเข้าคู่ขนาน แล้วเข้าซอยมา 2กิโลเมตร



แผนที่การเดินทาง



วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

ข่าวภัยพิบัติ


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ ขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 150,000 คนแล้ว ซึ่งยังไม่รวมศพที่อยู่ใต้ซากปรักหักพักในเมืองหลวงและที่อื่น ๆ ขณะที่การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ยุติลงแล้วอย่างเป็นทางการ แต่ได้เน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือแทน ก่อนหน้านี้ทีมกู้ภัยนานาชาติจากกรีซกับฝรั่งเศส สามารถช่วยกันนำตัวนายริชมอนด์ อีซานทัส วัย 24 ปี ขึ้นมาจากใต้ซากคอนกรีตและไม้ ของร้านค้าในโรงแรมนาโปลีของกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อวันเสาร์ หรือ 11 วันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริคเตอร์ โดยเจ้าตัวอยู่ในสภาพดี และบอกว่าที่รอดชีวิต เพราะมุดหลบเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะตัวหนึ่ง ตอนที่สิ่งต่าง ๆ พังถล่มลงมารอบตัว เขาติดอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ และนอนหงายอยู่ตลอดเวลา รอดมาด้วยการดื่มโค๊กกับเบียร์และกินคุ้กกี้



ขณะที่เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นางสุทธินี หรือ มุก อินกะโผะ ซึ่งเป็นคนไทยอยู่ในเฮติ และเป็นคนไทยคนแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ เมื่อเวลา 06.10น. ด้วยสายการบินการบินไทย ทีจี 911 จากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้แวะเปลี่ยนเครื่องที่จาไมก้าและไมอามี่ สหรัฐอเมริกา โดยเตรียมจะเดินทางต่อไปยังสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อที่จะกลับไปหาครอบครัว นางสุทธินี เผยว่า ไปอยู่ที่เฮติประมาณ 2 ปี กับ นายสุขคล สามี ที่เป็นวิศวกรบริษัทโทรศัพท์มือถือ ขณะนี้กำลังตั้งครรภ์ประมาณ 3 เดือน โดยเล่าว่านาทีที่เกิดแผ่นดินไหว กำลังอยู่ในอพาร์ตเมนต์บนภูเขา ขณะที่สามีทำงานอยู่ในเมือง ภายหลังเหตุสงบดีใจมากที่ตามหาสามีจนพบว่าปลอดภัย ทั้ง 2 คน อย่างไรก็ตาม รู้สึกหดหู่อย่างมาก กับภาพที่พบหลังจากแผ่นดินไหว ทั้งการปล้นสะดม และเห็นผู้เสียชีวิตนอนเรียงราย ด้านรองผู้อำนวยการ กองดูแลคุ้มครองผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ตัวแทนนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอบคุณนางสุทธินี และสามี ที่ประสานงานติดต่อกับคนไทยในเฮติ ขณะนี้ยังเหลืออยู่ที่นั่นอีก 6 คน โดยปลอดภัยทุกคนและยังไม่ต้องการเดินทงกลับประเทศไทยขณะนี้ ทั้งนี้สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อ 21 ม.ค. ว่า หน่วยกู้ภัยในเฮติ ในบริเวณพื้นที่รกร้างทางเหนือของกรุงปอร์โตแปรงซ์ ที่พังพินาศ เร่งทำงานทั้งวันทั้งคืน ใช้รถตักขุดหลุมขนาดมหึมาเพื่อเป็นสถานที่ฝังร่างของผู้เสียชีวิตนับหมื่น ๆ ศพและกำลังส่งกลิ่นโชยไปทั่วบริเวณ จากผู้เสียชีวิตที่เชื่อว่าถึง 2 แสนราย เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่า ฝังศพไปแล้วถึงหมื่น เห็นศพของเด็กมากมายนับไม่ถ้วน แทบไม่เป็นอันนอน หากเมื่อใดที่ผล็อยหลับไปก็จะฝันร้ายตลอด ซึ่งจำนวนของศพนั้นมีปริมาณมากเสียจนไม่สามารถทำพิธีฝังตามหลักศาสนา หรือข้อเรียกร้องของนานาชาติให้แยกฝังหลุมละศพได้ เผื่อว่าวันหนึ่งญาติผู้ตายจะมาขุดไปทำพิธี ที่ทำได้ตอนนี้คือรีบขุดหลุม เทศพ และกลบฝังทันที ด้าน ดร.เกรก เอลเดอร์ ผู้อำนวยการการบริหารปฏิบัติการช่วยเหลือในเฮติ กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน กล่าวว่า สิ่งที่น่ากลัวต่อไป คือ ความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาด อย่างเช่น ท้องร่วง โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ และโรคอื่นๆ ในค่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีระบบทางสุขอนามัยย่ำแย่ ทั้งยังแออัดยัดเยียดไปด้วยชาวเฮติผู้เคราะห์ร้ายหลายพันคน



ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือน เฮติ เสี่ยงเจอบิ๊กอาฟเตอร์ช็อคอีก หลังเจอขนาด 5.9 ริกเตอร์เมื่อวันพุธ และอาจเกิดที่สาธารณรัฐโดมินิกันที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน บรรดานักวิทยาศาสตร์พากันออกมาเตือนว่า เฮติ อาจประสบกับอาฟเตอร์ช็อครุนแรงเพิ่มเติมอีกภายในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ และแม้รูปแบบของอาฟเตอร์ช็อคตามปกติจะบ่งชี้ว่ามักจะมีความรุนแรงน้อยลง และเกิดขึ้นถี่น้อยลง แต่ก็จะเกิดอาฟเตอร์ช็อคอีกหนึ่งครั้งที่รุนแรงพอ ๆ กับเหตุอาฟเตอร์ช็อคที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (20 ม.ค.) ที่มีขนาดรุนแรงถึง 5.9 ริกเตอร์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ บรู๊ซ เพรสเกรฟ นักธรณีฟิสิกส์ของสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ หรือ USGS กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่าแผ่นดินกำลังปรับตัวต่อสภาพใหม่ที่เป็นจริงของชั้นหิน ขณะที่ อีริค กาเลส์ แห่งมหาวิทยาลัยเพอร์ดู กล่าวว่า จะเกิดอาฟเตอร์ช็อคอีกหลายสัปดาห์ รวมทั้งครั้งหนึ่งที่จะรุนแรงเท่าเมื่อวันพุธ อาคารต่าง ๆ จึงยังมีความเสี่ยงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อ่อนแออยู่แล้ว ซึ่งความเห็นของเขาได้รับการยืนยันโดย จูลี่ ดัตตัน นักธรณีวิทยาของ USGS กาเลส์ กล่าวด้วยว่า แผ่นดินไหวครั้งก่อนกินบริเวณในประเทศเพื่อนบ้านคือ สาธารณรัฐโดมินิกัน จึงกำลังสร้างความวิตกว่าอาจเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหม่ที่โดมินิกัน เพราะทั้งสองประเทศต่างตั้งอยู่บนเกาะฮิสปานิโอล่าด้วยกัน แต่ยังไม่มีข้อมูลพอที่จะคาดการณ์อะไรได้แน่ชัด ด้าน สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพี รายงานว่า สหประชาชาติแถลงสรุปยอดช่วยเหลือเหยื่อผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคารถล่มของเฮติ รวม 121 ราย หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวผ่านพ้นมาครบหนึ่งสัปดาห์ นับจากวันที่ 12 ม.ค. ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังประเมินไว้ที่ 200,000 ราย บาดเจ็บ 250,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 1.5 ล้านคน ขณะที่ความหวังในการช่วยเหลือเหยื่อจากซากอาคารริบหรี่ลงทุกขณะ เนื่องจากหากขาดน้ำนานเกิน 3 วัน คนส่วนใหญ่ก็จะเสียชีวิต แต่ทีมกู้ภัยยังได้ทึ่งกับปาฏิหาริย์เมื่อพบผู้รอดชีวิตอีกหลายคนตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวง โดยเหยื่อที่รอดเป็นผู้หญิงทั้งหมด



อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข่าวสารชวนสลดใจ ชาวเฮติฆ่ากันตายเพื่อแย่งอาหารประทังชีวิตรอด ก็มีข่าวช่วยเพิ่มกำลังใจให้ผู้คน เมื่อนายแพทย์คล้อด เซอรีนา เปิดบ้านส่วนตัวบนเนินเขาให้ผู้บาดเจ็บเข้ามารักษาและอาศัยฟรี แม้ขาดความพร้อมด้านอุปกรณ์การแพทย์ แต่ช่วยให้ประชาชนนับร้อยคนไม่ต้องนอนรอความตายข้างถนน ส่วนความช่วยเหลือ คนดังวงการบันเทิง-กีฬา ร่วมระดมทุนกันอย่างล้นหลาม แม้แต่ "เจ้าเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ มีข่าวควักเงินช่วยกว่า 100 ล้านบาทช่วยเหลือชาวเฮติ ด้านประธานาธิบดีเรอเน พรีวาล ผู้นำเฮติ รีบออกแถลงการณ์ขอบคุณนานาชาติและองค์กรสากลต่าง ๆ ที่ส่งความช่วยเหลือมาให้ผู้ประสบภัยในเฮติอย่างทันท่วงที และให้คำมั่นชาวเฮติว่า แม้รัฐบาลสูญเสียศักยภาพการบริหารประเทศไปบ้าง แต่รัฐบาลยังไม่ล่มสลาย เจ้าหน้าที่ยังพร้อมปกป้องชาวบ้านให้รอดพ้นภัยอันตรายจากเหล่านักโทษที่แหกคุกหนีไปกว่า 4,000 คนโดยก่อนหน้านี้สำนักข่าวเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นที่สาธารณรัฐเฮติ ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะฮิสปันโยลา ในทะเลแคริบเบียน ส่วนหนึ่งของทวีปอเมริกา เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 12 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น หรือเกือบตี 5 ของวันที่ 13 มกราคม ตามเวลาในไทย โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 7 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 16 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ดินราว 10 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้ทำเนียบประธานาธิบดี ที่ทำการกระทรวงต่าง ๆ ตลอดจนที่ทำการขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ พังถล่ม รวมทั้งอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก และยังไม่ทราบชะตากรรมของเจ้าหน้าที่ ที่เชื่อว่าติดอยู่ภายใต้ซากอาคารเหล่านี้ โดยคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน และอาจจะมีผู้เสียชีวิตมากถึงแสนคน ทั้งนี้แผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปีของเฮติ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2313 และยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างรุนแรงตามมาอีกถึง 24 ครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.9, 5.5 และ 5.1 ริกเตอร์ ขณะที่ นายฌอง ลุค มาร์ตินาจ โฆษกขององค์การกาชาดสากลและสมาคมเสี้ยววงเดือนแดง หรือ ICRC แถลงที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันพฤหัสบดี คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา น่าจะอยู่ที่ระหว่าง 45,000-50,000 คน ทางด้านนางโบแลตต์ อาซอร์ ชาร์ล เอกอัครราชฑูตเฮติ ประจำสเปน กล่าวต่อที่ประชุม เพื่อแสดงการสนับสนุนผู้ประสบภัยชาวเฮติที่กรุงมาดริดในวันเดียวกันว่า อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 วันกว่าประเมินยอดผู้เสียชีวิตแท้จริงได้ เพราะพบศพเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เธอกล่าวด้วยว่า การประเมินยอดผู้เสียชีวิตว่าอาจสูงกว่าแสนคนของนายกรัฐมนตรีฌอง แม็ก เยลเลอรีฟ เป็นการประเมินจากสภาพความเสียหายและจำนวนความหนาแน่นของประชากร ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ทางด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยชีวิต ยามรักษาการณ์คนหนึ่งออกมาจากซากอาคารกองบัญชาการใหญ่สูง 5 ชั้นของสหประชาชาติในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ที่พังทลาย ซึ่งเป็นปาฏิหาริย์เล็ก ๆ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.53 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น และสั่นสะเทือนต่อเนื่องนานกว่า 1 นาที หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มควันสีขาวซึ่งเกิดจากผงฝุ่นจากอาคารที่พังถล่มลงมา ได้ปกคลุมท้องถนนในกรุงปอร์โตแปรงซ์จนมืด เพราะแรงแผ่นดินไหวทำให้สายไฟขาด จึงไม่มีไฟฟ้าตามถนน ตึกรามบ้านช่อง ทำให้การกู้ภัยเป็นไปอย่างลำบาก



ขณะที่สถานการณ์ในเมืองเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ผู้ที่รอดชีวิตต่างวิ่งวุ่นตามหาญาติ ๆ ของตัวเอง และมีเสียงไซเรนดังไปทั่วเมือง โดยนายกรัฐมนตรี ฌอง-แมกซ์ เบลเลอรีฟ ของเฮติ ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีซีเอ็นเอ็นว่า อาจมีประชากรกว่า100,000 คนเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ "ผมเชื่อว่าผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ จะมีมากกว่า 100,000 คน แต่ผมก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นจริง และได้แต่หวังว่าประชาชนจะหนีออกมาทัน ในระหว่างเกิดแผ่นดินไหวและมีตึกหลายแห่งถล่มลงมานั้น เราคาดว่ามีประชาชน อยู่ตามท้องถนนจำนวนมาก" นายกรัฐมนตรีเฮติ กล่าวถึงเหตุแผ่นดินไหวในเฮติ ขณะที่ประธานาธิบดี เรเน พรีวาล ของเฮติ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตมีจำนวนหลายพันคน ขณะที่สภาพเมืองหลวงถูกทำลายย่อยยับ อาคารรัฐสภา สำนักงานสรรพากร โรงเรียน และโรงพยาบาลพังถล่มลงมา ในโรงเรียนหลายแห่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรายงานหลายกระแสว่า เรือนจำแห่งสำคัญ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ได้รับความเสียหาย และมีนักโทษหลบหนีออกไปได้ รายงานข่าวระบุอีกว่า แรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้รับรู้ได้ถึงสาธารณรัฐโดมินิกัน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับเฮติ และอยู่บนเกาะฮิสปันโลยาเช่นกัน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น เช่นเดียวกับฝั่งตะวันออกของคิวบาที่รับรู้ได้แรงสั่นสะเทือน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ขณะนี้นานาประเทศต่างประกาศให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยเยอรมนีให้เงินช่วยเหลือ 1 ล้านยูโร (กว่า 47 ล้านบาท) ในทันที ขณะที่อังกฤษ ฝรั่งเศส ไต้หวัน ส่งคณะเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือแล้ว เช่นเดียวกับบราซิลที่จัดส่งอาหารหลายตันไปให้ รวมทั้งส่งรัฐมนตรีกลาโหมลงพื้นที่ด้วย เนื่องจากพบเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพบราซิล อย่างน้อย 11 คนเสียชีวิต ขณะที่แคนาดาส่งทีมไปสำรวจความต้องการของผู้รอดชีวิตแล้ว และจะส่งทีมกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ตามไปภายหลัง ส่วนคิวบาได้ส่งแพทย์ไปช่วยเหลือแล้ว 30 คน ด้าน นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้หน่วยบรรเทาทุกข์ของสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือในทันที พร้อมกับเรือลำหนึ่งของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ได้เดินทางถึงนอกชายฝั่งเฮติแล้ว เพื่ออพยพผู้คนบางส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยล่าสุด สหรัฐฯ ได้ส่งกองกำลัง 10,000 นาย เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งคาดว่าจะเดินทางไปถึงวันจันทร์ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 50,000 - 100,000 คน ขณะที่ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ยกเลิกกำหนดการเยือนประเทศที่เหลือในเอเชีย และเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน เพื่อบัญชาการความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในเฮติแล้ว ทางด้านสหประชาชาติ นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า แผ่นดินไหวได้สร้างความหายนะครั้งใหญ่ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติเร่งให้ความช่วยเหลือเฮติ และสหประชาชาติประกาศให้เงินช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ขั้นต้น มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 330 ล้านบาท) โดยเงินจำนวนนี้มาจากกองทุนฉุกเฉินของสหประชาชาติเอง สำหรับธนาคารโลก (เวิลด์แบงค์) ระบุจะให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินกับเฮติ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,300 ล้านบาท) เพื่อฟื้นฟูสภาพบ้านเมือง และยังได้ส่งผู้เชี่ยวชาญการทำงานเข้าไปประเมินความเสียหาย และช่วยลำดับความสำคัญในสิ่งที่ต้องทำก่อนและหลัง เช่นเดียวกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ระบุว่า พร้อมจะให้การช่วยเหลือกับเฮติอย่างเร็วที่สุด ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์การกาชาดสากล ซึ่งไปถึงที่เกิดเหตุแล้วบอกว่า ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทั้งโทรศัพท์ ไฟฟ้า น้ำประปา ตลอดจนการรักษาพยาบาลในเมืองหลวงของเฮติตอนนี้ใช้การไม่ได้เลย พร้อมกับประเมินว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบร่วม 3 ล้านคน ทางด้าน นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อธิบายถึงสัญญาณผิดปกติจากเกิดแผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐเฮติว่า เคยมีนักวิทยาศาสตร์ที่คิดแตกต่างกัน มองว่าการเกิดแผ่นดินไหวบนโลกทุกวันนี้เกิดจากการสะสมพลังงานจากใจกลางโลก และนอกโลก ซึ่งเป็นพลังงานที่ปลดปล่อยมาจากระบบสุริยะ คล้ายกับปรากฏการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง "2012 วันสิ้นโลก" ที่เกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกอย่างรุนแรง เนื่องจากความผิดปกติของการเคลื่อนตัวของระบบสุริยะ ที่สร้างแรงกระตุ้นให้ดาวเคราะห์ต่าง ๆ รวมถึงโลก โดยการปลดปล่อยพลังงานแสง พลังงานสนามแม่เหล็ก มายังดาวเคราะห์หลายดวง กระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แสงสว่าง ทำให้โลกได้รับสนามแม่เหล็กจากการเกิด "พายุสุริยะ" หรือ "จุดดับ" ก็ส่งพลังงานจากภายนอกเข้ามามีผลต่อการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกได้ "ส่วนตัวผมเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ที่โลกได้รับพลังงานจากระบบสุริยะ หรือจักรวาลอื่น ๆ ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก อย่างกรณีที่เฮติก็เชื่อว่า เกิดจากการเรียงตัวของดาวเคราะห์ในระบบสุริยจักรวาล ที่กระตุ้นให้ดวงอาทิตย์เกิดสันดาป ปลดปล่อยสนามแม่เหล็กมาสู่โลก" นายสมิทธ กล่าว สำหรับประเทศเฮติ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเฮติ (Republic of Haiti) เป็นประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่บนเกาะฮิสปันโยลา ในทะเลแคริบเบียน โดยประเทศเฮติ แบ่งครึ่งเกาะฮิสปันโยลากับสาธารณรัฐโดมินิกัน มีพื้นที่ 27,750 ตารางกิโลเมตร มีกรุงปอร์โตแปรงซ์ เป็นเมืองหลวง และมีประชากรราว 9 ล้านคน มีภาษาฝรั่งเศส และภาษาครีโอลเฮติ เป็นภาษาราชการ และใช้เงินสกุล กูร์ด (HTG) ปัจจุบันมีนายเรเน พรีวาล เป็นประธานาธิบดี และมีนายกรัฐมนตรี ชื่อฌอง-แมกซ์ เบลเลอรีฟ ทั้งนี้ ประเทศเฮติ เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ก่อนได้รับเอกราชในปี พ.ศ.2347 และใช้ชื่อว่าประเทศเฮติ ซึ่งถือเป็นประเทศที่ 2 ในทวีปอเมริกา ที่ได้รับเอกราช รองจากสหรัฐอเมริกา และประเทศเฮติ ยังเป็นสาธารณรัฐเอกราชของคนผิวดำแห่งแรกของโลกอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศเฮติ ถือเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ ประเทศเฮติ ต้องเผชิญกับภัยครั้งรุนแรงหลายครั้งในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปี พ.ศ. 2551 ได้เกิดเฮอริเคน 3 ลูก และพายุโซนร้อนอีก 1 ลูกถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 793 คน สูญหายอีกกว่า 300 คน และในปีเดียวกันนั้นยังเกิดการจลาจล เนื่องจากประชาชนลุกฮือที่ไม่พอใจกับราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก จนล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 200 ปีของเฮติ











ข่าวเทคโนโลยี





บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ผู้นำนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และการสร้างสรรค์ ไลฟ์สไตล์เพื่อผู้บริโภค วันนี้ แถลงวิสัยทัศน์ ทิศทางธุรกิจ และกลยุทธ์การตลาดประจำปี 2554 ผลักดันแนวความคิด Sony Redefines Entertainment สร้างสรรค์นิยามใหม่ของความบันเทิงที่ครบครันในทุกโซลูชั่นส์ ผ่านเสาหลักกลยุทธ์ 4 ประการ ประกอบด้วย มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ (Product Redefined), สรรสร้างเนื้อหา (Content Redefined), รังสรรค์บริการเหนือระดับ (Customer-Focus Redefined) บูรณาการระบบบริหารจัดการค้าปลีก (Retail Marketing Redefined) เผยโฉมกองทัพผลิตภัณฑ์ล่าสุดเป็นครั้งแรกมากมาย นำโดย บราเวีย อินเตอร์เน็ต ทีวี จำนวนกว่า 20 รุ่น พร้อมเติมเต็มประสบการณ์บันเทิง 3 มิติในบ้านครบวงจรด้วยผลิตภัณฑ์ 3D ครบครัน ตั้งแต่กล้องแฮนดีแคม กล้องไซเบอร์ช็อต บล็อกกี้ โน้ตบุ๊คไวโอ้ ชุดโฮมเธียเตอร์ 3D และ PS3 เป็นต้น ให้ผู้บริโภคสนุกสนานไปกับการสร้างสรรค์คอนเทนท์ ไปจนถึงการรับชมความบันเทิง 3 มิติได้อย่างเต็มอิ่ม พร้อมร่วมผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อนำเสนอความหลากหลายของสาระ บันเทิงสำหรับทีวีอินเตอร์เน็ต ตั้งเป้าเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ มั่นใจเป็นผู้นำตลาดเอวีไอทีที่สามารถนำเสนอโซลูชั่นส์ความบันเทิงได้อย่าง ครบครันที่สุด



มร. โทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา สภาพตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยรวมได้รับผลกระทบจากทั้งปัจจัยเชิงบวก และเชิงลบ อย่างไรก็ตามธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตลาดทีวี และตลาดกล้องดีเอสแอลอาร์ที่ความต้องการยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และด้วยการวางกลุยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้ธุรกิจทีวีบราเวียของโซนี่โตขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ธุรกิจกล้องดีเอสแอลอาร์ของโซนี่ก็เติบโตขึ้นกว่า 140 เปอร์เซ็นต์ในปี 2554 นี้ โซนี่จะยังคงเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งด้วยกลยุทธ์ที่เข้มข้นขึ้นต่อยอดจาก ในปีที่แล้ว ภายใต้ชื่อ “Sony Redefines Entertainment” นับเป็นการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความบันเทิงแบบครบวงจร ตั้งแต่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ (Product Redefined) ซึ่งในปีนี้โซนี่จะมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 3D Solutions ที่ครบครันตั้งแต่ทีวี กล้อง เกมส์ ไปจนถึงโน้ตบุ๊คไวโอ้ รวมทั้งอินเตอร์เน็ตทีวี การนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลาย (Content Redefined) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆให้แก่ผู้บริโภค อาทิ การร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตคอนเทนท์บนอินเตอร์เน็ตทีวี รวมถึงสนุกเพลิดเพลินไปกับการสร้างสรรค์คอนเทนท์ 3D เพื่อรับชม และแบ่งปันความประทับใจได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันโซนี่ก็ยังให้ความสำคัญกับการสรรหาสิทธิประโยชน์ และบริการคุณภาพให้แก่ลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด (Customer Focus Redefined) รวมทั้ง การพัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดจำหน่าย (Retail Marketing Redefined) มุ่งให้ประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งผู้แทนจำหน่าย และลูกค้าผู้สนับสนุนสินค้าโซนี่อีกด้วย ซึ่งภายใต้กลยุทธ์หลักดังกล่าว คาดว่าจะช่วยรักษาความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ผู้บริโภค รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และขับเคลื่อนธุรกิจโซนี่ให้เดิบโตขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2554 นี้



มร. ฮิโรชิ ซากาโมโตะ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท โซนี่ คอร์เปอเรชั่น กล่าวว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดแอลซีดีทีวียังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแถบแพนเอเซียซึ่งนับเป็นตลาดที่มีความสำคัญของโซนี่ด้วยศักยภาพในการ เติบโตที่สูงมาก ในปี 2554 นี้ โซนี่ได้บัญญัตินิยามใหม่สำหรับทีวีภายใต้ชื่อ “Sony Internet TV – Television Redefined” เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสร้างสรรค์รูปแบบของประสบการณ์บันเทิงใหม่ให้แก่การ รับชมทีวีด้วยเนื้อหาสาระที่หลากหลายบนอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง โดยโซนี่ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านคอนเทนท์มากกว่า 100 รายทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยในการให้บริการเนื้อหาบน บราเวีย อินเตอร์เน็ตทีวี โดยในปัจจุบันจำนวนผู้ชมทั่วโลกที่รับชมเนื้อหาบนโซนี่ อินเตอร์เน็ต ทีวีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เรื่อย ๆ เช่นในออสเตรเลีย และอินเดีย เป็นต้น และคาดว่าในประเทศไทยก็กำลังเข้าสู่แนวโน้มเดียวกัน โดยในปีนี้จำนวนของบราเวียอินเตอร์เน็ตทีวีที่จะเปิดตัวในปีนี้จะมีสัดส่วน มากถึง 83 เปอร์เซ็นต์ กล่าวได้ว่าในปีนี้ อินเตอร์เน็ตทีวี เทคโนโลยี 3D ผนวกกับคุณภาพและดีไซน์ จะเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจทีวีของโซนี่ ผมเชื่อว่าผู้บริโภคจะให้การตอบรับ และมีความสุขไปกับประสบการณ์บันเทิงใหม่ ๆ ที่โซนี่ได้คิดค้นพัฒนาเพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกค้า และผู้บริโภคอย่างมุ่งมั่นมาโดยตลอด


ในปี 2554 โซนี่พร้อมเดินหน้าผลักดันยุทธศาสตร์ทางธุรกิจหลัก 4 ประการ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ซึ่งประกอบไปด้วย


1. Product Redefinedปฏิวัติ นวัตกรรมใหม่เพื่อผู้บริโภคทั้งในส่วนของ Total 3D Solutions ที่โซนี่เป็นบริษัทเอวีไอทีเพียงรายเดียวที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ 3D แบบครบครัน ทั้ง 3D BRAVIA, 3D Blu-ray, 3D Home Entertainment, 3D Cyber-shot, 3D Handycam, 3D VAIO, 3D Bloggie, และ 3D PS3 เป็นต้น นอกจากนี้ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ทีวี โซนี่ยังได้เปิดตัวอินเตอร์เน็ตทีวี ภายใต้คอนเซ็ปท์ TV Redefined อันเป็นปฐมบทใหม่แห่งความบันเทิงสมจริง


2. Content Redefinedนำเสนอคอนเทนท์พิเศษสำหรับอินเตอร์เน็ตทีวีชู ไอเดียสร้างสรรค์ที่มีสาระบันเทิงหลากหลายสำหรับทีวีบราเวีย อินเตอร์เน็ตทีวีโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงคอนเทนท์ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยพันธมิตรผู้ผลิตเนื้อหา ทั้งโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7, เครือเนชั่น, ผู้ผลิตเว็บไซต์ในเครือ M Thai และรายอื่น ๆ อีกมากที่จะทยอยร่วมให้บริการ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อการสร้างสรรค์คอนเทนท์ด้วยตนเอง จากพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ 3D ที่สามารถผลิต รับชม และแบ่งปันผลงานแบบ 3 มิติได้อย่างง่ายดาย ทุกที่ ทุกเวลา


3. Customer Focus Redefinedพัฒนาสิทธิประโยชน์และการบริการในด้าน CRM อย่างเต็มรูปแบบเพื่อ ลูกค้าคนพิเศษจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากการเปิดตัวแคมเปญ My Sony ซึ่งมีฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดในประเทศด้วยสมาชิกกว่า 1 ล้านราย โดยโซนี่เป็นบริษัทด้านเอวีไอทีเพียงรายเดียวที่มีการดำเนินการเชิงรุกใน ด้านการบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้าอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ในปี 2554 จะมีการเฟ้นหาบริการ และกิจกรรมอีกหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าโซนี่ได้อย่างตรงจุด รวมทั้งการนำเสนอโปรแกรม Cash Back เพิ่มสิทธิประโยชน์ ให้แก่สมาชิก My Sony ซึ่งสามารถได้รับส่วนลดโดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิต


4. Retail Marketing Redefinedมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาระบบการจัดจำหน่ายเพื่อเสริมประสิทธิภาพ และประสิทธิผลให้แก่ทั้งผู้แทนจำหน่าย รวมทั้งลูกค้า อาทิ การพัฒนาระบบ E-Dealers เป็นระบบบริหารควบคุมระบบคลังสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ช่วยให้การสั่งซื้อ และจัดส่งสินค้าตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแม่นยำ ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก ช่วยสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า



และใน การเปิดตัวบราเวีย อินเตอร์เน็ต ทีวี ในครั้งนี้ โซนี่ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ 3 พันธมิตร ผู้ผลิตคอนเทนท์ ทีวีออนไลน์รายใหญ่ในประเทศไทย เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่มีความหลากหลายทั้งสาระ และบันเทิง สำหรับลูกค้าผู้ซื้อ บราเวีย อินเตอร์เน็ต ทีวี โดยเฉพาะ ได้แก่ บริษัท บีบีทีวี นิว มีเดีย จำกัด (เครือโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7) ผู้ให้สาระด้านข่าวสาร และบันเทิง วาไรตี้ต่าง ๆ, บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเนื้อหาด้านข่าวสารธุรกิจ สาระบันเทิง เทคโนโลยีอัพเดท และบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด ผู้จัดทำเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง M-Thai, Gossip Star ก็พร้อมให้บริการเนื้อหาบันเทิง ไลฟ์สไตล์ วาไรตี้สำหรับสุภาพสตรี รวมทั้งคลิปวิดีโอต่าง ๆ เป็นต้น นับเป็นการให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคว่าจะได้รับสารพันบันเทิงหลากรูปแบบ นอกเหนือไปจากการชมรายการทีวีทั่วไปอย่างคุ้มค่า ขณะเดียวกันก็ยังเพลิดเพลินไปกับการท่องเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอย่าง YouTube, Facebook, Golf Digest และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ โซนี่ยังพร้อมเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตคอนเทนท์ทีวีออนไลน์อื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเพิ่มขยายเนื้อหาสาระ และความบันเทิงให้แก่ผู้บริโภคอย่างจุใจยิ่งขึ้นภายในปีนี้


ผลิตภัณฑ์ ใหม่


เพื่อ เป็นการต่อยอดความสำเร็จของพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ 3 มิติ Sony 3D World บริษัทฯ ได้เดินหน้าจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายทั้งในด้านดีไซน์ และเทคโนโลยีที่แตกต่าง เพื่อสร้างสีสันให้แก่ตลาดเอวีไอทีของไทย และยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจให้แก่ผู้บริโภค โดยจะมีกองทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ทยอยเปิดตัวอีกกว่า 50 รุ่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป



ทีวี บราเวีย แอลอีดี และแอลซีดี เปิดตัวพร้อมกัน 8 ซีรี่ส์ จำนวน 24 รุ่น ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ คือ บราเวีย อินเตอร์เน็ตทีวี จำนวนถึง 20 รุ่น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 22 นิ้ว จนถึง 65 นิ้ว โดยในกลุ่มนี้ยังรวมถึงรุ่นที่รองรับสัญญาณ 3D จำนวนถึง 11 รุ่นด้วยกัน



กล้องดิจิตอลไซเบอร์ช็อต จำนวน 5 ซีรี่ส์ 15 รุ่นใหม่ ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายตามความต้องการ มาพร้อมเทคโนโลยีคุณภาพสูง ฟังก์ชั่น และลูกเล่นใหม่มากมาย อาทิ ระบบถ่ายภาพ 3D และบันทึกภาพวิดีโอระดับ Full HD (รุ่น TX100V, TX10, WX10 และ WX7) คุณสมบัติไฮซูม พร้อมระบบ GPS / Compass ในตัว (รุ่น HX100V และ HX9V) พร้อมด้วยสีสัน และดีไซน์ล้ำสมัยในสไตล์ของไซเบอร์ช็อต ในทุกรุ่น ทุกซีรี่ส์




  • กล้อง วิดีโอแฮนดีแคม รุ่นใหม่ล่าสุด 8 รุ่น โดยรุ่น HDR-TD10E เป็นกล้องถ่ายวิดีโอ 3D ระดับไฮเดฟฟินิชั่นเครื่องแรกในโลกที่ใช้เซ็นเซอร์ Full HD 2 ตัว จึงสามารถบันทึกวิดีโอแบบ 3 มิติได้อย่างสมบูรณ์ และคมชัดสมจริง นอกจากนี้ยังสามารถรับชมวิดีโอ 2 มิติ หรือ 3 มิติ ได้จากจอ LCD ขนาด 3.5 นิ้ว โดยไม่ต้องใช้แว่น ในขณะที่กล้องแฮนดีแคม PJ Series ซึ่งมีด้วยกัน 3 รุ่น จะเป็นกล้องถ่ายวิดีโอพร้อมโปรเจคเตอร์ในตัวเครื่องแรกในโลก ทำให้ผู้ใช้สามารถบันทึก และชมภาพประทับใจได้ทุกที่ทุกโอกาส ด้วยโปรเจคเตอร์ในตัวให้ภาพขนาดสูงสุดถึง 60 นิ้ว รวมถึงระบบเสียงแบบสเตอริโอ 5.1 แชนแนล เพิ่มอรรถรสในการรับชมทั้งภาพและเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอก จากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิงในรูปแบบ 3D และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งในกลุ่มโฮมเธียเตอร์ และเครื่องเล่น Blu-ray กล้อง Bloggie คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค VAIO รวมทั้งหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีให้เลือกสรรทั้งระดับมืออาชีพ และแฟชั่น


ผลิตภัณฑ์ ใหม่พร้อมทยอยออกวางตลาดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยียมชม http://www.sony.co.th/


สำคัญที่สติ...ขาดสติเมื่อใดก็เหมือนตาย

สำคัญที่สติ...ขาดสติเมื่อใดก็เหมือนตาย






พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สติเป็นธรรมอันเอก ที่จะคอยประคององค์สมาธิให้เดินไปในแนวสัมมาปฏิปทา ข้อนี้หลวงพ่อท่านเน้นไว้หนักหนา


สิ่งที่รักษาสมาธิไว้ได้ คือสตินี้เป็นธรรม เป็นสภาวธรรมอันหนึ่ง ซึ่งให้ธรรมอันอื่นๆ ทั้งหลายเกิดขึ้นโดยพร้อมเพรียง สตินี้คือชีวิต ถ้าขาดสติเมื่อใดก็เหมือนตาย ถ้าขาดสติเมื่อใดก็เป็นคนประมาท ในระหว่างที่ขาดสตินั้น พูดไม่มีความหมาย การกระทำไม่มีความหมาย ธรรมคือสตินี้ คือความระลึกได้ในลักษณะใดก็ตาม สติเป็นเหตุให้สัมปชัญญะเกิดขึ้นมาได้ เป็นเหตุให้ปัญญาเกิดขึ้นมาได้ ทุกสิ่งสารพัด ธรรมทั้งหลายถ้าหากว่าขาดสติ ธรรมทั้งหลายไม่สมบูรณ์ อันนี้คือการควบคุมการยืน การนั่ง การนอน ไม่ใช่เพียงขณะนั่งสมาธิเท่านั้น แต่เมื่อเราออกจากสมาธิไปแล้ว สติยังเป็นสิ่งประจำใจอยู่เสมอ มีความรู้อยู่เสมอ เป็นของที่มีอยู่เสมอ ทำอะไรก็ระมัดระวัง เมื่อระมัดระวังทางจิตใจ ความอายก็เกิดขึ้นมา การพูด การกระทำอันใดที่ไม่ถูกต้อง เราก็อายขึ้น อายขึ้น เมื่อความอายมีกำลังกล้าขึ้นมา ความสังวรก็มากขึ้นด้วย เมื่อความสังวรมากขึ้น ความประมาทก็ไม่มี


นี่ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้นั่งสมาธิอยู่ตรงนั้น เราจะไปไหนก็ตาม อันนี้มันอยู่ในจิตใจของตัวเอง ไม่ได้หนีไปไหน นี่ท่านว่าเจริญสติ ทำให้มาก เจริญให้มาก อันนี้เป็นธรรมะคุ้มครองรักษากิจการที่เราทำอยู่หรือทำมาแล้ว หรือกำลังจะกระทำอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นธรรมะที่มีคุณประโยชน์มาก ให้เรารู้ตัวทุกเมื่อ ความเห็นผิดชอบมันก็มีอยู่ทุกเมื่อ เมื่อความเห็นผิดชอบมีอยู่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อ ความละอายก็เกิดขึ้น จะไม่ทำสิ่งที่ผิดหรือสิ่งที่ไม่ดี เรียกว่าปัญญาเกิดขึ้นแล้ว แม้ในการเจริญปัญญา สติในแง่ของการระลึกรู้อยู่ในความไม่แน่ ก็เป็นปัจจัยอันสำคัญอย่างหนึ่ง


ก็ให้รู้ว่า อันนี้มันไม่แน่นอนอย่างนี้เรื่อยไปเถอะ แล้วปัญญามันจะเกิดหรอก แต่อย่าไปคิดออกหน้ามันนะ ให้ดูไปเถอะให้มันรู้ ถ้าหากเรารู้มันจะมารายงานเราหรอก มันก็คล้ายๆ คนเข้าไปในบ้านที่มีหน้าต่างอยู่ ๖ ช่อง แล้วก็มีคนๆ เดียวอยู่ในนั้น เราไปดูหน้าต่าง ก็มีคนโผล่ออกไป ทางโน้นก็มีคนโผล่ออกไป มันก็ไอ้คนๆ เดียวกันนั่นแหละ ไม่ใช่คน ๖ คน คนๆ เดียวมันไปโผล่ทั่วถึงกันทั้งหมด ๖ ช่อง คนๆ เดียวก็เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นของไม่แน่ไม่นอนทั้งนั้น นี้เป็นอารมณ์ของวิปัสสนา จะตัดความสงสัยทั้งหลายออกไปได้


ที่มา : สำคัญที่สติใน ตามรอยพระอริยเจ้า หลวงพ่อชา สุภทฺโท พระโพธิญาณเถรแห่งหนองป่าพง, เรียบเรียง โดย ดำรงธรรม, หน้า ๑๖๓-๑๖๕

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

สิ่งที่มุ่งหวังในชีวิต

สิ่งที่มุ่งหวังในชีวิตนั้น ผมคิดว่าในอนาคตอยากเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ตอนนี้ฝันไว้แค่ปริญญาตรีก่อน และเอาวุฒิมาสมัครงานที่ดีๆ ได้เงินเดือนเยอะๆ เพื่อเอาเงินนั้นไปซื้อของที่เราต้องการ และก็มีเงินใช้อย่างไม่ขัดสน มีรถยนต์ซักคัน มอเตอร์ไซค์ 4 สูบ 400 cc.ของ HONDA หรือ YAMAHA ก็ได้ เพื่อเอาไว้ขับไปเที่ยว เที่ยวมันให้ทั่วทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ หรือเที่ยวให้มันทั่วโลกไปเลยก็ได้ครับ

ในประเทศไทย อยากไปเที่ยวชมธรรมชาติในที่ต่างๆ เช่น เขาใหญ่ ดอยต่างๆที่คนอื่นเขาไปเที่ยวกัน หรือสถานที่ๆสำคัญทางประวัติศาสตร์ และไปทำบุญตามวัดต่างๆ โดยเฉพาะตามวัดที่ยากจน เพื่อที่ทางวัดจะได้เอาเงินไปสร้างหรือบูรณปฏิสังขรณ์ที่ทางวัดต้องการ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า หรือซื้อของที่จำเป็นในการทำศาสนกิจต่อไป

บริจาคของตามโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดน เพื่อเอาสิ่งของที่จำเป็นไปให้น้องๆชาวเผ่าต่างที่อยู่แต่ละพื้นที่ หรือค่อยสอนหนังสือน้องๆที่เราพอจะสอนได้บ้าง และได้ดูความเป็นอยู่ของตำรวจตะเวนชายแดน ที่เสียสละความสุขสบายค่อยเฝ้ารักษาอธิปไตยของไทย และเอามาเล่าให้คนที่อย่างสุขสบายอย่างพวกเราให้รับรู้ถึงความลำบากของพวกเขาเล่านั้น ว่าเขาคิดอย่างไร ต้องการอะไร สิ่งไหนสำคัญต่อพวกเขา เพื่อที่เราจะได้ตอบแทนพวกเขาบ้างในบางครั้ง

ส่วนต่างประเทศนั้น อยากไปเที่ยวที่แอฟริกา เพื่อไปเที่ยวสวนสัตว์ที่ออกสารคดี ในโทรทัศน์ที่มีสัตว์ป่าเยอะๆ มีการล่าเยื่ออย่างธรรมชาติ อย่างเช่นมี สิงโต เสือชีต้า เป็นต้น และไปศึกษาความเป็นอยู่ของชนเผ่า มาไซมาร่าที่เป็นคนประจำท้องถิ่นของแอฟริกา และอีกหลายๆประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ออสเตเลียฯ

และขอฝากกลอนธรรมชาติไว้ให้อ่านเล่นๆแก้เครียด

กลอนธรรมชาติ

เหล่าต้นไม้เขียวขจีในไพรสัณฑ์

ดอกไม้นานาพรรณหลากสีสัน

สัตว์เล็กใหญ่พึ่งพาอาศัยกัน

ซึ่งธรรมชาติอันงดงามออกแบบมา

ทั้งแม่น้ำลำธารซึ่งกว้างใหญ่

มหาสมุทรไพศาลไกลสุดตา

เหนือพื้นผืนแผ่นดินยังมีฟ้า

ในวารีฝูงปลาต่างแหวกว่าย

หลังฝนพรำสายรุ้งปรากฏแสง

เหล่าแมลงบินว่อนอย่างเรียงราย

ธรรมชาติสร้างสิ่งงามมีความหมาย

ให้แก่กายทุกชีวีบนโลกนี้

หมู่นกกาส่งเสียงร้องก้องเซ็งแซ่

ฝูงกระแตไต่ไม้ใกล้พลบค่ำ

ลมระเรื่อยเฉื่อยพลิ้วผ่านม่านสีดำ

ริมฝั่งน้ำไม่วังเวงเพลงยามเย็น

แม้ใจเหงาเศร้าบ้างบางขณะ

ยังลาละลบเลือนทุกข์ซุกยากเข็ญ

ธรรมชาติวาดภาพงามทุกยามเย็น

ประดุจเป็นน้ำทิพย์หอมหลอมเลี้ยงใจ

ยลตะวันปันสีทองทาบท้องน้ำ

ยามใกล้ค่ำระยิบยับวะวับไหว

งามจับตาจดจ้องมองคราใด

อบอุ่นในไอละอองของตะวัน

ธรรมชาติงามยามเย็นนี้ที่บ้านป่า

หมู่นกกากล่อมบรรเลงเพลงสวรรค์

สายลมพลิ้วลิ่วระรื่นตื่นนวลจันทร์

ดุจภาพฝันจับใจใช่เกินบรรยาย.

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประวัติการทำงาน

ประวัติการทำงาน
ตอนอายุ 16 ปี มาทำงานอยู่กับป้าที่สมุทรสาคร เป็นเด็กตั้งลูกสนุกเกอร์ ได้เงินเดือน 5,000 บาท ดีใจมากที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง ทำอยู่ 1ปี จึงออกมาทำงานที่โรงกลึงแห่งหนึ่งเป็นเด็กฝึกงาน เพราะเห็นว่าเมื่อเป็นงานแล้วความรู้ที่เราได้มาก็จะติดตัวเราตลอดไป ได้เงินเดือน 5,000 บาท ทำอยู่ประมาณ 7 เดือน แต่ก็ต้องออกจากงานเพราะว่าเจ้าของโรงกลึงไม่จ่ายเงินเดือน จึงมาลงทุนกับพี่ชายลูกของป้า ขายถังแช่ ขายได้ประมาณ 2-3เดือน ก็ต้องเลิกเพราะว่าขาดทุน พออายุ 18 ปี ก้หางานทำ ทำงานครั้งแรกที่เป็น งานบริษัท คือโลตัสสมุทรสาคร ในตำแหน่งพนักงานเรียงของแผนกขายยกหีบห่อ รับผิดชอบส่วนของ ข้าวสาร น้ำตาลทราย ขนม ลูกอม อาหารสุนัข มีเพื่อนร่วมงานอยู่ทั้งหมด 7 คน มีพี่ที่ทำงานอยู่ก่อนคนหนึ่งค่อยสอนงาน ลักษณะงานที่ทำ คือค่อยเอาสินค้ามาเติมที่ชั้นให้เต็มอยู่ตลอดเวลา ระหว่างทำงานนั้นก็สนุกดีได้ทำงานที่ไม่เคยำทำ ทำงานได้ประมาณ 6-7 เดือน ก็ต้องลาออก เพราะว่ามีปัญหาในการเดินทาง และมาสมัครงานใหม่ที่ 7-11 ทำอยู่ 7-11 ท่าเรือ (รับลม) ก็ทำงานแบบโลตัส แต่ต้องคอยคิดเงินด้วย และต้องพูดว่า รับขนมจีบ ซาลาเปา ท่านเพิ่มไหมครับ ทำได้ 6-7 เดือน ลาออกมารับราชการ (ทหารเกณฑ์) เป็นทหารอยู่ 1 ปี เพราะว่าสมัครเข้าไป เมื่อปลดออกมา ก็อุปสมบทๆอยู่ 4 พรรษา ก็ลาสิกขา เมื่อลาสิกขาก็กลับไปทำนาอยู่ที่บ้าน
เมื่อปี 2549 ที่บ้านน้ำท่วมหนัก ท่วมอยู่ 5 เดือน ทำอะไรไม่ได้เลย จึงออกมาหางานทำอีกครั้ง ทำที่บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด(มหาชน) ตั้งแต่ปี 2550 ในแผนก คลังพัสดุ ส่วนองค์ประกอบ ตำแหน่ง เสมียนรายวัน ค่อยรับ - จ่ายสินค้า พร้อมทั้งขับรถฟล์อคลิฟท์ ทำอยู่ 1.2 ปี ก็ได้เลื่อนเป็นเสมียนรายเดือน ทำอยู่ 1.10 ปี ก็ได้เลื่อนตำแหน่งอีกครั้ง ในตำแหน่งโฟร์แมน ลักษณะงานก็ยังเหมือนเดิมครับ
ขอฝากกลอนสำรับคนทำงานอย่างเราๆไว้ให้อ่านเล่นๆกันนะครับ

งานเธอหนักหยุดพักก็ได้
พักให้สบายให้หายอ่อนล้า
ปล่อยวางซะบ้างเรื่องที่ค้างคา
เมื่อถึงเวลาค่อยมาทำงาน